พัดลมไอเย็น ยี่ห้อไหนดี ราคาถูก ประหยัดไฟ ให้ความเย็นเต็มพิกัด
วิธีการเลือกซื้อพัดลมไอเย็น
● รู้ขนาดห้องของตัวเอง ก่อนที่ท่านจะซื้อพัดลมไอ เย็นขนาดใหญ่ คุณจะต้องรู้ขนาดของห้องที่จะนำไปวาง เนื่องจากว่าพัดลมแต่ละรุ่นนั้นทำออกมาให้ใช้กับพื้นที่กว้าง แคบ ที่ไม่เท่ากัน ซึ่งการใช้พัดลมไอเย็นตามขนาดของห้องจะทำความเย็นได้ไวและช่วยให้ท่านไม่เปลืองค่าไฟ● ดูความแข็งแรงของตัวเครื่อง
เนื่องจากว่าตัวเครื่องของพัดลมไอเย็นนั้น คนส่วนใหญ่ที่ซื้อใช้มักจะเคลื่อนย้ายบ่อย ซึ่งจะไม่เหมือนกับพัดลมตั้งโต๊ะ และพัดลมไอเย็นนั้นจำเป็นที่จะต้องมีส่วนที่ให้ท่านได้เอามือสอดเข้าไปเพื่อยกได้ เพราะหากเราจับไม่ถูกทิศทาง ชิ้นส่วนอาจจะหลุดติดมือได้ บางท่านอาจจะสงสัยว่า พัดลมไอ เย็น mitsuta ดีไหม เป็นพัดลมไอเย็นเสียงเบา หรือไม่ซึ่งก่อนที่ท่านจะซื้อท่านควรที่จะศึกษาข้อมูลก่อน หรือไปที่ร้านเพื่อทดสอบกับตัวเครื่องจริง ๆ จะดีกว่า ทั้งนี้เพื่อท่านจะได้ไม่ผิดหวังเมื่อซื้อมาใช้ที่บ้าน
● ดูความแข็งแรงของล้อ
เนื่องจากว่าตัวพัดลมไอเย็นนั้นจะต้องถูกเคลื่อนย้าย โดยการเข็นไปเข็นมาบ่อย ๆ และเราต้องเติมน้ำด้วย น้ำหนักของน้ำจะต้องสอดคล้องกับการรับน้ำหนักของล้อด้วย บางรุ่นสามารถล็อคล้อได้เพื่อเพิ่มความมั่นใจให้กับคนใช้งาน
● ต้องแยกให้ออกว่าระหว่างแอร์กับพัดลมไอเย็น
พัดลมไอเย็นจะมีความเย็นที่ไม่เท่ากับแอร์ และพัดลมไอเย็นจะไม่เหมือนกับแอร์เคลื่อนที่ ไม่ว่าจะเป็นโครงสร้างหรือการทำงานที่อาจจะคล้ายกัน แต่ใช้แทนกันไม่ได้ หากท่านต้องการความเย็นในระดับที่เย็นเฉียบท่านคงต้องซื้อแอร์จะดีกว่า
● ก่อนซื้อท่านจะต้องคำนวณว่าจะใช้งานกี่ชั่วโมง
ท่านจะต้องดูว่าพัดลมไอ เย็น masterkool รุ่นไหนดีที่สุด หรือ พัดลมไอ เย็น masterkool รุ่นไหนดี pantip ที่เราจะซื้อนั้นจะใช้กับห้องนอนหรือห้องนั่งเล่น หากเปิดวันละไม่กี่ชั่วโมงและคิดว่าใช้งานไม่นาน ท่านสามารถเลือกพัดลมไอเย็นที่ราคาเท่าไหร่ก็ได้ แต่หากคิดว่าต้องการพัดลมที่คุ้มค่าและเปิดตอนนอนติดต่อกัน 8 ชั่วโมง แนะนำให้ท่านเลือกรุ่นที่มีฟังก์ชันเพิ่มเช่นสามารถดักจับฝุ่น มีระบบเปิดปิดอัตโนมัติ และมีเสียงเตือนเวลาความชื้นในอากาศสูงเกินไป
● ดูการรับประกันมอเตอร์
พัดลมไอเย็นนั้นจะมีอะไหล่ที่สำคัญ 2 อย่าง คือ มอเตอร์ และ แผงรังผึ้ง ซึ่งแผงรังผึ้งจะพังก็เพราะมีเศษฝุ่นไปอุดตันพร้อมกับน้ำเกิดเป็นคราบเชื้อราได้ง่าย หากมอเตอร์เสียจะต้องซื้อใหม่ทั้งเครื่อง ซึ่งบางยี่ห้อจะมีการรับประกันมอเตอร์ เมื่อมอเตอร์พังก็สามารถเคลมได้